if(empty($cus_mem)){ ?>
} else { ?>
} ?>
หนังสือพิมพ์
ธนาคาร
ส่วนราชการ |
|
|
จำนวนผู้เยี่ยมชม
ตั้งแต่ 01/01/2544 |
|
|
|
2.
วัสดุต่าง ๆ ที่ใช้โดยเฉพาะเหล็กเส้นจะต้องได้ขนาดมีจำนวนครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในแบบ
เพราะความแข็งแรงและความปลอดภัยของเสาและคานจะขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนของเหล็กเส้นที่ใช้
รวม ทั้งการผูกมัดหรือการเชื่อมต่ออย่างเหมาะสมด้วย เนื้อคอนกรีตที่หล่อขึ้นมาเป็นเสาและคานจะ
ทำหน้าที่ยึด ให้ตัวเสาและคานแข็งแกร่งและคงรูป ในขณะที่เหล็กเส้นที่ฝังอยู่ในเนื้อคอนกรีตจะทำหน้า
ที่ยึดไม่ให้เนื้อคอนกรีตแตกหักออกจากกันง่าย ถึงแม้ว่าบางครั้งตัวเสาและคานจะถูกกระทบกระเทือนจน
มีรอยร้าวแต่ก็จะไม่แตกหักออกจากกัน 3.ปูนซีเมนต์ที่นำมาใช้ในการหล่อเสาและคานควรจะเป็นปูนที่ผลิตขึ้นเพื่อจะใช้กับงานประเภท
นี้โดยเฉพาะ เพราะปูนประเภทนี้จะแข็งตัวเร็ว รับน้ำหนักได้เร็ว
และมีความแข็งแรงทนทานต่อการ รับ น้ำหนัก ถ้าเป็นปูนที่ใช้สำหรับงานประเภทอื่น
เช่น งานฉาบ จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน มีความ แข็ง แรงและรับน้ำหนักได้น้อยกว่า
เป็นต้น ปูนซีเมนต์ประเภทต่าง ๆ ในท้องตลาดจะมีเครื่องหมายตรา
และยี่ห้อที่แตกต่างกันตามลักษณะของการใช้งานเป็นที่สังเกต ซึ่งสามารถจะศึกษาและสอบถามข้อมูลได้
จากร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วไป 4.เสาและคานที่จะหล่อเสร็จผิวคอนกรีตควรอยู่ในสภาพที่เรียบร้อยลักษณะของเนื้อคอนกรีตควร
จะสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เป็นลักษณะของหินที่ยังผสมไม่เข้ากันกับเนื้อปูน
ไม่มีรอยแตกหรือรอย แหว่งขนาดใหญ่อันจะเป็นผลเสียต่อความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก
5.เสาและคานที่เพิ่งจะทำเสร็จควรจะมีการบ่มผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
เช่น อาจจะทำการคลุมด้วย ผ้ากระสอบแล้วลดน้ำให้ชุ่มเพื่อป้องกันไม่ให้ความชื่นจากผิวคอนกรีตระเหยออกมาเร็วเกินไป
อันจะมีผลทำ ให้เสาหรือคานแตกร้าวหรือลดความแข็งแรงลงไปได้ ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการบ่นนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ
เช่น ประเภทของปูนซีเมนต์ที่ใช้และสภาพดินฟ้าอากาศ ซึ่งถือเป็นรายละเอียดในด้านเทคนิคซึ่งจะไม่ขอนำมากล่าวในที่นี้
|
|
หน้า
1 หน้า 2 |
|
|
|