| 1)
แบบตั้งพื้น เครื่องปรับอากาศแบบนี้จะติดตั้งส่วนที่เป็นพัดลมและคอยล์เย็นไว้
ตรงพื้นห้องโดยวางชิดกับผนังด้านใดด้านหนึ่งภายในห้องและท่อต่อน้ำยาเชื่อมกับตัวคอมเพรสเซอร์
ที่อยู่ภายนอกห้อง เครื่องปรับอากาศแบบนี้เป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปเพราะการติดตั้งทำได้ง่าย
ให้ ความมั่นคงแข็งแรงเนื่องจากเครื่องตั้งอยู่บนพื้นห้อง การบำรุงรักษาก็ทำได้ง่าย
แต่มีข้อเสียอยู่บ้าง คือกินเนื้อที่ของห้อง โดยเฉพาะห้องที่มีขนาดเล็กหรือมีข้าวของมากอาจจะหาที่ติดตั้งที่เหมาะสมได้ลำบาก |
| 2)
แบบติดผนัง เครื่องปรับอากาศแบบนี้จะติดตั้งส่วนที่เป็นพัดลมและคอยล์เย็นไว้กับ
ผนังด้านใดด้างหนึ่งภายในห้องและท่อน้ำยาเชื่อมกับตัวคอมเพรสเซอร์ที่อยู่ด้านนอกห้องเช่นเดียวกัน
เครื่องปรับอากาศแบบนี้เป็นที่นิยมใช้กันมากเช่นกัน เนื่องจากติดตั้งง่าย
ไม่กินเนื้อที่ สามารถติด ตั้งไว้ในบริเวณที่อยู่เหนือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
ได้โดยไม่เสียพื้นที่ของห้อง แต่มีข้อเสียอยู่บ้างก็คือ การติดยึดตัวเครื่องเข้ากับผนังจะต้องทำให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาในภายหลัง |
| 3)
แบบแขวนเพดาน เครื่องปรับอากาศแบบนี้ก็คล้ายกับ
2 แบบที่กล่าวมาแล้ว เพียงแต่การติดตั้งส่วนที่เป็นพัดลมและคอยล์เย็นจะติดตั้งไว้เหนือศีรษะตรงบริเวณใต้ฝ้าเพดานใกล้
ผนังด้านใดด้านหนึ่ง เครื่องปรับอากาศแบบนี้มีข้อดีที่เห็นได้ชัดก็คือไม่กินเนื้อที่
เพราะไม่ต้องใช้ เนื้อที่ของห้องหรือผนังเลยห้องที่วางข้าวของเต็มหรือมีหน้าต่างมากก็สามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
แบบนี้ได้แต่ก็มีข้อเสียหลายประการ กล่าวคือ การติดตั้งลำบาก
ต้องมีการเตรียมโครงเหล็กตรง บริเวณเพดานด้านบนไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง
การบำรุงรักษาก็ทำได้ลำบาก กว่าเครื่องปรับอากาศแบบอื่นเนื่องจากติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สูง
เครื่องปรับอากาศแบบนี้จึงไม่ค่อยมี ผู้นิยมกันมากนัก นอกจากห้องที่มีปัญหาติดขัดด้านเนื้อที่จริงๆ
หรือต้องการใช้เนื้อที่ของห้องเพื่อทำประโยชน์ด้านอื่นมากกว่า |
ระบบการควบคุมและการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
ระบบการควบคุมและการทำงานของเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง
จากเครื่องปรับอากาศในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากวิวัฒนาการทางด้านวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ที่นำมาประยุกต์กับอุปกรณ์และระบบควบคุมต่างๆ ของเครื่องปรับอากาศเพื่อเพิ่มความสะดวกและ
ความถูกต้องแม่นยำในการควบคุม สำหรับเครื่องปรับอากาศที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันสามารถแบ่ง
ระบบของการควบคุมออกได้เป็น 2 ระบบใหญ่ๆ คือ
|
1.
ระบบกลไก ( mechanical system
)
การควบคุมด้วยระบบกลไกนี้เป็นระบบที่ใช้กันมาตั้งแต่เดิม เช่น
การเปิดและปิดเครื่อง การปรับความแรงของพัดลม และการปรับอุณหภูมิ
จะใช้วิธีปรับจากปุ่มที่ติดอยู่ที่ตัวเครื่อง ระบบ การควบคุมอุณหภูมิห้องให้เป็นไปตามที่ต้องการจะใช้ตัวควบคุมอุณหภูมิที่อาศัยการขยายและหดตัว
ของปรอทหรือแท่งโลหะขณะที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเป็นตัวควบคุมการเปิดและปิดสวิตช์ของคอมเพรส
เซอร์เพื่อควบคุมจังหวะการทำงานของคอมเพรสเซอร์ อันจะมีผลต่อการควบคุมอุณหภูมิของห้อง
ให้เป็นไปตามที่ต้องการ
การควบคุมด้วยระบบกลไกนี้ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะดูล้าสมัยไปบ้าง
แต่ก็สามารถให้ ความสะดวกสบายและใช้ควบคุมอย่างได้ผลในระดับหนึ่ง
นอกจากนั้นระบบนี้ยังมีข้อดีอีกประการ หนึ่งคือเป็นระบบที่ค่อนข้างทนทาน
ไม่เสียง่าย เนื่องจากเป็นระบบที่ไม่ซับซ้อน อีกทั้งมีราคาไม่
แพงนักจึงยังคงมีผู้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย |
| |
